Passengers รวมคอมเมนท์จากผู้โดยสารกลุ่มแรก ทัวร์อวกาศกับคริส แพตต์ และ เจนลอว์ Passengers หนังไซไฟอวกาศผสมกลิ่นความโรแมนติกนำแสดงโดย คริส แพตต์ และ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ว่าด้วยเรื่องราวของยานขนย้ายผู้โดยสารข้ามดวงดาวจากโลกไปสู่ดาวเคราะห์ดวงใหม่เพื่อไปใช้ชีวิตใหม่ที่นั่น เพื่อให้การขนย้ายที่ใช้ระยะเวลานานกว่า 120 ปี สมบูรณ์แบบผู้โดยสารทั้งหมดต้องอยู่ในสภาวะจำศีล แต่ปรากฎว่ามีสองกระสวยจำศีลเกิดการขัดข้อง ทำให้ตัวละครหลักของเรื่องต้องตื่นก่อนกำหนด90ปี จุดกำเนิดของการเดินทางอันโดดเดี่ยวกลางอวกาศจึงเริ่มต้นขึน ซึ่งเราได้รวมคอมเมนท์ของผู้โดยสารกลุ่มแรกที่ได้สัมผัสการเดินทางอันตื่นตาตื่นใจของ Passengers มาให้อ่านกัน อินกะหนัง ‏@myinnermovie :: #Passengers ชอบบรรยากาศความอลังการในห้วงอวกาศเหงาๆ + SciFiล้ำๆ ตื่นตาตื่นใจดี แค่ไปดูเจน ลอว์ กะ คริส แพรทท์ ก็คุ้มแล้ว 7/10 #movietwit เกิดมาเพื่อดูหนัง ‏@borntoseemovies :: #Passengers คือ Titanic เวอร์ชั่นอวกาศ ดราม่ารัก อ้างว้าง ลุ้นระทึก 4DX คือระบบที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้ น้ำพุ่งกระจาย 7/10 #movietwit Nangdee.com ‏@Nangdee :: #Passengers หนังไซไฟสุดโรแมนติกในอวกาศ ไม่ค่อยมีอะไรพีค แต่โปรดักชั่นอลังการเสมือนว่าอยู่ในอวกาศจริงๆ พระเอกนางเอกเคมีที่เข้ากันสุดๆ ดูหนังอย่าถีบเบาะ ‏@dontkickmyseat :: #Passengers คริสกับเจนนิเฟอร์คือดีงามและโดนเหวี่ยงไปตามแรงโน้มถ่วง ตัวหนังก็เช่นกัน ถ้าปรับตัวทันจะสนุกมาก ไม่เข้าใจใช่ไหม? ไปดูๆ #movietwit Welovemovieclub ‏@Welovemovieclub :: Passengers ความเหงาทำให้คนทำได้ทุกอย่าง หนังไซไฟที่ประเด็นดราม่าดี งานออกแบบยานเนี๊ยบมาก ตัวหนังไม่ได้แย่แบบ % เว็บมะเขือเน่าเลย #movietwit Sense on Films ‏@SenseonFilms :: passenger หนังสวยๆ ดูเพลิน จบสวยงาม เจลอว์ สวยมากบอกเลย #movietwit ชาแมน ‏@Chamanz13 :: #Passengers 'เหงาเท่าอวกาศ' เพลินตามากสำหรับแฟนเจนลอว์ พล็อตสูตรสำเร็จไปหน่อย ไม่แย่แต่ก็ไม่ว้าว ถ้ากล้าสุดโต่งสักทางคงดีกว่านี้ #movietwit MOViE ATTRACTiON ‏@M0ViEATTRACTi0N :: #Passengers ดูได้เพลินๆ เหมือนท่องอวกาศ โปรดักชั่นและฉาก บนยานสวยมาก #movietwit อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก ‏@uysaitag :: #Passengers ดูสนุกๆ เพลินๆหนังธรรมดาไปหน่อยออกแนวนิยายรักประโลมโลกหวานแหววฉบับไซไฟ เนื้อหาเชย ไม่ต้องดาราใหญ่เบอร์นี้ก็ได้ #movietwit IAMNUMBER14 ‏@xIAMNUMBER14x :: เป็นหนังไซ-ไฟ ที่โรแมนติกที่สุดที่เคยมีมา คริส แพรตต์ - เจน ลอว์ คู่รักนอกโลกที่ลงตัวที่สุด #Passengers #movietwit แมวตัวนั้นนั่งแถวC ‏@CatWatchMovieC :: #Passengers พอดูได้เพลินๆแต่ดูในระบบ4DX ทำให้สนุกขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย สั่นยันเหนียง ไม่ต้องไปนาซ่าก็รู้ว่ายานอับปางสั่นยังไง #movietwit ~ llwnSonic ~ ♩♫♪♬ ‏@PatSonic :: โรแมนติกในอวกาศ #Passengers คริส แพรตต์และเจนลอร์มีออร่ามาก หนังไม่เร่งเร้ามากแต่ซึ้งน้ำตาซึม ชอบฉากในยานดูมีคลาสดี #movietwit Universalreviews ‏@Universalrevi3w :: #passengers อาจไม่ใช่หนัง Sci-fi ที่ดีแต่กลับเป็นหนังรักที่มีประเด็นน่าสนใจ อย่าไปสนนักวิจารณ์เลย ดูเถอะนักแสดงดีโปรดักชั่นเริ่ด #movietwit Pop ARCH ‏@Pop_Dobby_Arch :: #Passengers เพลินๆ ดารานำโอเค CG ใช้ได้ 4DX เสริมหนังได้ดีมาก ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน 7/10 คริสแพรทหล่อ #movietwit คิมคานา ‏@KimkanaMagazine :: #Passengers มาเบอร์ดราม่าโรแมนติกแบบล้ำๆเป็นหลัก ให้ฟีลหนังรักแบบแฟนเดย์แฟนกันบนยานอวกาศไปอีก มีลุ้นระทึกบ้างแค่ช่วงหลังนะ 7.5/10 #MovieTwit BossZanovA ‏@BossZa_novA :: Passangers:หนังรักในบรรยากาศsci-fiที่ทำให้รู้ว่าความเหงาทำให้เราทำได้ทุกอย่าง แม้พลอตเบาบางแต่เจนลอร์เรื่องนี้คือสวยปังที่สุด(B) #movietwit ตุ๊ดมนุดเงินเดือน ‏@puispuip :: Passengers | หนังไซไฟฉากสวยดูเพลินๆ คริสแพตต์เจนลอว์หล่อสวยตรึงคนดูให้เคลิ้มตั้งแต่ต้นยันจบกลบข้อเสียไปได้บ้างรวมๆแล้วชอบ #movietwit GossipGun ‏@GossipGun :: Passengers | เป็นหนังไซไฟน้ำเน่า ดูรวมๆก็บันเทิงอยู่ แต่บทต๊องไปหน่อย พยายามจะเป็นหลายแนวเกิน พระนางเหมือนเล่นเป็นตัวเอง (B) #movietwit zoomzogzag dotcom ‏@zoomzogzag :: #Passengers สนุกและลุ้นมาก หลายคนน่าจะเดาออกว่าพระนางตื่นก่อนทำไม แต่กระนั้นก็ยังมีเซอร์ไพรส์ชวนตะลึงอยู่อีกนะ ฉากอวกาศอลังมาก #movietwit

5 หนังสำหรับคนโสด เติมความเหงาในคืนข้ามปี ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เชื่อว่าหลายคนที่มีแฟนคงจะชวนแฟนออกไปเที่ยวหรือหามุมโรแมนติกสำหรับนับถอยหลังในคืนข้ามปี แต่คนโสดคงต้องนอนเหงาข้ามปี ปีนี้เรามาเปลี่ยนความโสดให้เป็นความสุข เปลี่ยนความเหงาให้เป็นพลังบวกสร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิตด้วย 5 หนังดี เหมาะในการดูคืนข้ามปี • OFFICE CHRISTMAS PARTY : เมื่อโสดก็ต้องบ้าให้สุด (ฉายอยู่) ในออฟฟิศคริสมาสต์ ปาร์ตี้ เต็มไปด้วยตัวละครที่หลากหลายทั้งคนมีคู่ คนโสด คนที่มีครอบครัวแล้ว หรือคนที่หย่าร้าง ทำให้หนังเรื่องนี้มีสีสันในการเล่าเรื่อง พร้อมอัดแน่นความบ้าฮาสุดๆ การดูหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เพิ่มความเหงา แต่เป็นการระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจให้ระเบิดออกมาเป็นเสียงหัวเราะ เรื่องย่อ : ความฮาสุดป่วนบังเกิดขึ้น เมื่อซีอีโอของบริษัท (เจนนิเฟอร์ อนิสตัน) พยายามจะปิดสาขาของน้องชายซึ่งชอบปาร์ตี้เป็นหลัก (ที.เจ. มิลเลอร์) ดังนั้น เขาและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (เจสัน เบทแมน) จึงชวนเพื่อนร่วมงานมาจัดปาร์ตี้ฉลองคริสต์มาส เพื่อสร้างความประทับใจให้ว่าที่ลูกค้าคนสำคัญและพยายามปิดดีลการขาย เพื่อรักษาตำแหน่งหน้าที่การงานไม่ให้หลุดลอยไป • A Street Cat Named Bob​ : คนโสดที่โดดเดี่ยวกลางเมืองใหญ่ ชีวิตเต็มไปด้วยมรสุม (ฉายอยู่) บ๊อบ แมว เพื่อน คน หนังสร้างจากหนังสือชื่อดังที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก เหมาะกับคนโสดที่อยู่ในเมืองใหญ่ บรรยากาศเหงาๆ ชีวิตที่ต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง โดยที่ไม่มีใครสนใจ แต่ท่ามกลางความโดดเดี่ยวยังเต็มไปด้วยมรสุมปัญหาของชีวิต ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ว่า เราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไร เรื่องย่อ : เจมส์ โบเวน ชายเร่ร่อนที่เต็มไปด้วยปัญหาชีวิต เขากำลังบำบัดจากการติดยา ครอบครัวปฏิเสธที่จะพบเขา ชีวิตต้องเร่ร่อนคุ้ยขยะตามข้างทาง และใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับพบแมวสีส้มที่เจ็บป่วยอยู่ตรงทางเดินเคหะสถาน เขาก็ไม่นึกว่าชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปได้เพียงนี้ จากเดิมเขาต้องร่อนเร่พเนจร เขาได้ช่วยชีวิตแมวตัวนั้นซึ่งเขาตั้งชื่อว่าบ๊อบ แมวตัวนั้นกลายเป็นคู่หูที่แยกจากกันไม่ได้ การเดินทางร้องเพลงเปิดหมวกของทั้งคู่ช่วยเติมเต็มระหว่างกันและกัน และเยียวยาบาดแผลในอดีตของทั้งคู่อีกด้วย • Collateral Beauty : แด่คนผู้เคยสูญเสีย สำหรับคนโสด สิ่งหนึ่งที่ควรทำบ้างคือ การพิจารณาใคร่ครวญ ‘ความตาย เวลา ความรัก’ สามสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และแม้ว่าจะพยายามเข้าใจนามธรรมเหล่านี้แต่เราก็ไม่เคยรู้อย่างถ่องแท้เลยว่าความจริงแท้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นเป็นอย่างไรและเราจะรับมือกับมันอย่างไรเมื่อมันเข้ามาทักทายชีวิตของเรา หนังเรื่อง Collateral Beauty คือการถ่ายทอดทั้งสามประเด็นให้เราเห็นอีกแง่มุมของ ‘ความตาย เวลา ความรัก’และนำพามาซึ่งคำตอบบางอย่าง เรื่องย่อ : Collateral Beauty เล่าเรื่องราวที่ให้กำลังใจในการใช้ชีวิต ว่าด้วยชายคนหนึ่งซึ่งเดินทางผ่านประสบการณ์ของการสูญเสีย และสุดท้ายก็ได้ค้นพบคำตอบโดยอาศัยพลังใจ ความเปิดเผยจริงใจ อารมณ์ขัน และการยอมรับว่ามีบางสิ่งอยู่นอกเหนือความเข้าใจของเราเสมอ 'การมองโลก การเปิดใจ และการสานสัมพันธ์กับผู้คนหลังเกิดเหตุน่าเศร้าอาจเป็นสิ่งที่สวยงามมาก' • Lion : เราทำใครบางคนหล่นหายไปในชีวิตหรือเปล่า? อดีตบางครั้งยังคงตามมาหลอกหลอน แม้จะเป็นความทรงจำเรื่องที่ผ่านมาแล้วแต่เมื่อหวนคิดทีไรเรายังรู้สึกอยากกลับไปแก้ไข หรือ ทำมันให้ดีขึ้น แม้จะรู้ว่า เวลาไม่สามารถย้อนคืนได้ แต่การได้ทำบางอย่างเพื่อลบความรู้สึกนั้นยังอยู่ตลอดเวลา หนังเรื่องนี้ คือการออกตามหาครอบครัวที่พลัดพราก แต่ความรู้สึกและความทรงจำยังคงแจ่มชัดในใจ ทำให้เราย้อนกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า 'เราทำใครบางคนหล่นหายไปจากชีวิตบ้างหรือเปล่า? ' เรื่องย่อ : Lion ถือเป็นภาพยนตร์ที่สร้างกระแสกวาดคำชมจากนักวิจารณ์อย่างถล่มทลาย เป็นผลงานที่สร้างจากเรื่องจริงของ ซารู(เดฟ พาเทล) เด็กหนุ่มชาวอินเดียที่พลัดหลงจากพี่ชายและแม่ แล้วได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากคู่สามีภรรยาชาวออสเตรเลีย (เดวิด แวนแนม และนิโคล คิดแมน) แล้วเมื่อเติบโตขึ้น ซารูจึงตัดสินใจตามหาครอบครัวที่แท้จริงด้วยเทคโนโลยีอย่าง Google Earth เตรียมพิสูจน์ฝีมือการแสดงของเธอได้ใน Lion จนกว่า...จะพบกัน เปิดรอบพิเศษ 29 ธันวาคม – 4 มกราคม ฉายจริง 5 มกราคม ในโรงภาพยนตร์ • LA LA LAND : เติมความเหงาและรอยยิ้มด้วยเสียงเพลง 'LA LA LAND (ลา ลา แลนด์) นครดารา' ภาพยนตร์โรแมนติก-มิวสิคัลเรื่องราวการเดินทางไขว่คว้าฝัน บนเส้นทางคู่ขนานกับความรักของนักเปียโนหนุ่ม (ไรอัน กอสลิ่ง) และนักแสดงสาวสมัครเล่น (เอมมา สโตน) ผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ Whiplash ที่กำลังเร่งเครื่องสร้างกระแสชื่นชมจากกลุ่มนักวิจารณ์-สื่อรายใหญ่ และคว้าชัยบนเวทีรางวัลสำคัญๆ เรื่องย่อ : เรื่องราวของ เซบาสเตียน (ไรอัน กอสลิ่ง) หนุ่มนักเปียโนแจ๊ซที่ได้มีโอกาสพบรักกับ มีอา (เอ็มมา สโตน) นักแสดงสาวดาวรุ่ง แต่แล้วพวกเขาทั้งคู่กลับพบว่า ... การตั้งใจในการทำงานเพื่อไล่ตามความฝันของแต่ละฝ่าย ดูจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความสัมพันธ์เริ่ม ระหองระแหง และต่างฝ่ายต่างประคับประคองความรักของทั้งคู่เพื่อให้ผ่านพ้นอุปสรรคให้จงได้ เปิดรอบพิเศษ ตั้งแต่ 29 ธันวาคมนี้ รอบ 2 ทุ่มเป็นต้นไป และมีกำหนดฉายจริง 12 มกราคม 2017

รีวิว : Rogue One a Star wars story สะใจทุกอณู ภาคแยกเติมเต็มจักรวาลหลัก จักรวาลอันกว้างใหญ่กับเรื่องเล่าที่เป็นตำนาน หากยังจำกันได้ เมื่อ 39 ปีที่แล้ว Star Wars A New Hope ออกฉายสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนหนังในยุค 70s จนอีกหลายภาคต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมหลักของโลกภาพยนตร์ ‘จอร์จ ลูคัส’ ทำให้ภาพของสงครามอวกาศในยุคนั้นไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป ไม่ใช่แค่เรื่องของยานอวกาศสู้รบ แต่ Star Wars ยังมีปรัชญา การเมือง สายสัมพันธ์ และตำนานของอัศวินเจได ทำให้มันมีการกล่าวขานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความทรงจำจากยุค 70s ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่นจนถึงปัจจุบัน ถ้าแฟนหนังจำกันได้ เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Star wars จะมีโฮโลแกรมไตเติ้ลเล่าเกริ่นเรื่องราว โดยหนึ่งในบรรทัดเริ่มต้นได้กล่าวถึง กลุ่มต่อต้านที่เข้าไปขโมยแปลนดาวมรณะ อาวุธอันทรงพลังของฝ่ายจักรวรรดิ ก่อนที่จะตัดเข้าสู่เรื่องราวใน A New Hope ทำให้เราไม่รู้ว่าภารกิจในบรรทัดที่กล่าวถึงนั้นเป็นไปยังไง Rogue One a Star wars story จึงกลายเป็นหนังภาคแยกของสตาร์วอร์ส ที่มาเติมเต็มเนื้อเรื่องจุดนั้นให้แน่นมากขึ้น Rogue One เล่าเรื่องราวของ จิน เออโซ หญิงสาวผู้พลัดพรากจากครอบครัว หลังจากพ่อของเธอถูกฝ่ายจักรวรรดิจับตัวไปเพื่อพัฒนาอาวุธอันทรงพลัง ‘เดธสตาร์’ ที่สามารถทำลายล้างดาวทั้งดวง หลังจากนั้นเมื่อจิน เติบโตขึ้นเธอได้รับข้อความจากพ่อ ถึงแผนการบางอย่างที่จะสามารถหยุดยั้งการทำลายล้างของเดธสตาร์ได้และเธอมีหน้าที่จะสานต่อให้สำเร็จ โดยมีกองกบฎ และ เพื่อนอุดมการณ์เข้าร่วมภารกิจนี้ Rogue One มีการเล่าเรื่องที่แตกต่างจากหนังสตาร์วอร์สหลัก คือไม่มีอัศวินเจได ไม่มีพลังด้านมืด ด้านสว่าง แต่ยังคงธีมอวกาศด้วยรูปแบบยานรบ กองกำลังสตรอมทรูปเปอร์ ตัวละครที่มีส่วนเชื่อมกับจักรวาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายจักรวรรดิ หรือการกลับมาของดาร์ธเวเดอร์ และการเปิดเส้นเรื่องใหม่ที่เหมือนถูกแยกออกมาจากจักรวาลหนังหลัก คือ จิน เออโซ ตัวละครนำที่ไม่เคยปรากฎในภาคไหนมาก่อน เธอไม่ได้นำพาปริศนามาแบบ เรย์ ใน Star Wars 7 จุดกำเนิดของเธอชัดเจน ทำให้เราไม่ต้องครุ่นคิดว่า ตัวละครนำนี้มีปูมหลังหรือมีปริศนาอะไรซ่อนอยู่ ตรงนี้เองทำให้เราเดินทางไปกับตัวละครได้แบบสนุกโดยไม่ต้องคิดมาก ปล่อยความมันส์ไปกับมันอย่างเดียว เทคนิคของ Rogue One แม้จะเป็นหนังใหม่ที่สร้างในยุค CG เฟื่องฟู แต่อย่าลืมว่าหนังเดิมนั้นมีกลิ่นอายของความเป็นหนังสงครามอวกาศยุค 70s ค่อนข้างสูง การจะสร้างมันออกมาให้แนบเนียนกับความรู้สึกว่ามันอยู่ในยุคสมัยเดียวกันจึงเป็นจุดที่ค่อนข้างน่าสนใจ ซึ่ง โร้ควัน ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ด้วยการทำสีภาพให้เป็นโทนเดียวกันกับหนังสตาร์วอร์ส 1977 ภาพหลายมุมที่เคยถูกนำเสนอแบบสตาร์วอร์ส ถูกนำมาใช้อีกครั้ง รวมถึงการใช้ดนตรีประกอบที่คงธีมหลักไว้บางส่วนและแตกทำนองออกทำให้เราเห็นถึงความใส่ใจในการพยายามเชื่อมความรู้สึกคนดูระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่เข้าด้วยกัน ไม่ให้อารมณ์เบื่อกับความจำเจของจักรวาลหลักมากเกินไป จุดไคลแม็กซ์ของ Rogue One a Star wars story คือพาร์ทครึ่งหลังที่เริ่มเข้าสู่บทแอ็คชั่นสนั่นจักรวาลอย่างจริงจัง การใส่เต็มของเอฟเฟ็กต์ ดนตรีประกอบ ตัวละครที่เริ่มพาเราดำเนินไปสู่ความลุ้นระทึกในทุกนาที ทำให้อารมณ์ของคนดูถึงขั้นสุดราวกับระเบิดที่ถูกตั้งไว้ในเวลาที่เหมาะสม ประกอบกับในช่วงหลังๆหนังฮอลลีวู้ด เราแทบจะไม่เห็นฉากสงครามสะใจแบบนี้มากสักเท่าไหร่ ถือว่าครึ่งหลังของโร้ควันทำหน้าที่จุดนี้ได้ดีมาก ในขณะที่ช่วงแรกจะเน้นการเดินทางเพื่อเสาะหามากกว่าการบู๊ล้างผลาญ สำหรับความสะใจอีกอย่างหนึ่งคือในระบบ IMAX มีเสียงกระหึ่มและขนาดภาพที่ใหญ่มาก ทำให้ได้อารมณ์ความมันส์คูณสองขึ้นไปอีก แม้ Rogue One a Star wars story จะเล่าเรื่องแยกออกมา แต่ส่วนหัวและส่วนท้ายของRogue One สามารถเชื่อมกับรอยของ Star Wars ได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าเป็นแฟนสตาร์วอร์สที่เคยดู A New Hope อาจจะต้องร้อง ‘ว้าว’ กับจุดเชื่อมโยงที่ได้เห็น

Rogue One ประกาศศักดาความเยี่ยม! มีทุกสิ่งที่แฟนคลับอยากเห็น เป็นรองแค่ Empire Stirkes Back [8/10] จาก ลูคัส ฟิล์ม สู่ครั้งแรกของภาพยนตร์เดี่ยวของสตาร์ วอร์ส 'โร้ค วัน: ตำนานสตาร์ วอร์ส' มหากาพย์การผจญภัยกับเรื่องราวใหม่ ในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้ง กลุ่มวีรบุรุษรวมตัวกันในปฏิบัติการโจรกรรมแผนผังการสร้างดาวมฤตยู (เดธสตาร์) สุดยอดอาวุธมหาประลัยของฝ่ายจักรวรรดิ เหตุการณ์อันสำคัญในเส้นเวลาของสตาร์ วอร์สนี้ ได้นำพากลุ่มคนธรรมดาที่เลือกที่จะทำในสิ่งไม่ธรรมดา และการทำเช่นนั้น กลับกลายเป็นบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าพวกเขาเอง 'โร้ค วัน: ตำนานสตาร์ วอร์ส' กำกับโดย แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์ และนำแสดงโดย เฟลิซิตี้ โจนส์, ดิเอโก้ ลูน่า, เบน เมนเดลสัน, ดอนนี่ เยน, แมดส์ มิคเคลเซ่น, อลัน ทูดิค, ริซ อาห์เมด, ร่วมด้วย เจียง เหวิน และ ฟอเรสท์ วิธเทเกอร์ แคธลีน เคนเนดี, อัลลิสัน เชียร์เมอร์, ไซม่อน เอมานูเอล เป็นผู้อำนวยการสร้าง ร่วมด้วย จอห์น นอลล์, เจสัน แมคแกทลิน เป็นผู้อำนวยการสร้างบริหาร เรื่องราวโดย จอห์น นอลล์ และ แกรี่ วิธต้า และบทภาพยนตร์โดย คริส วิทซ์ และ โทนี่ กิลลอย 'โร้ค วัน: ตำนานสตาร์ วอร์ส' เข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 15 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์ และในระบบดิจิตอล 3 มิติ, ไอแมกซ์ 3 มิติ ,และ 4 มิติ Rogue One: A STAR WARS Story โร๊ควัน ตำนานสตาร์ วอร์ส 15 ธ.ค.นี้ในโรงภาพยนตร์

18+ก็เอาไม่อยู่!! Christmas Office Party คอมเมนท์มาเต็ม จังขั้นสุดของหนังมุกสกปรก!!! กระแสความฮาลั่นโรงหนัง เมื่อ CHRISTMAS PARTY หนังปาร์ตี้ส่งท้ายปีที่เป็นเรื่องราวของชาวออฟฟิศ โดนใจคนดูหนังและกลุ่มแฟนเพจ ยกให้นี่เป็นหนังที่มุกติดเรทและฮาขั้นสุด ซึ่่งเป็นเรื่องราวของ ซีอีโอของบริษัท (เจนนิเฟอร์ อนิสตัน) พยายามจะปิดสาขาของน้องชายซึ่งชอบปาร์ตี้เป็นหลัก (ที.เจ. มิลเลอร์) ดังนั้น เขาและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (เจสัน เบทแมน) จึงชวนเพื่อนร่วมงานมาจัดปาร์ตี้ฉลองคริสต์มาส เพื่อสร้างความประทับใจให้ว่าที่ลูกค้าคนสำคัญและพยายามปิดดีลการขาย เพื่อรักษาตำแหน่งหน้าที่การงานไม่ให้หลุดลอยไป ออฟฟิศ คริสต์มาส ปาร์ตี้ กำกับโดย จอช กอร์ดอน และ วิล สเป็ค ร่วมด้วยนักแสดงอย่าง เคท แม็คคินนอน, โอลิเวีย มันน์, จิลเลียน เบล และคอร์ทนีย์ บ. แวนซ์ เปิดรอบพิเศษแล้ววันนี้ และ ฉายจริง 15 ธ.ค. คอมเมนท์จากคนดู

จุดกำเนิด Rogue One การสำรวจจักรวาล Star Wars ใหม่ที่ไม่ซ้ำเดิม!!! ลูคัสฟิล์ม ภูมิใจเสนอ 'Rogue One: A Star Wars Story' เรื่องแรกของภาพยนตร์ Star Wars แบบตอนเดี่ยวที่จะทยอยออกมา ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นในจักรวาลที่แฟนๆ รักและรู้จัก แต่ด้วยตัวละครและเนื้อเรื่องใหม่ ในตอนที่แคธลีน เคนเนดี้ ประธานลูคัสฟิล์มและผู้อำนวยการสร้าง Star Wars ได้นั่งคุยกับจอร์จ ลูคัสครั้งแรกเมื่อเขาเกริ่นถึงแผนการที่จะสานต่อตำนาน Star Wars และสร้าง Episodes VII, VIII และ IX เขายังได้เผยถึงความทะเยอทะยานอีกอย่างหนึ่ง 'จอร์จตัดสินใจว่าเขาจะสร้างหนังเกี่ยวกับตำนานนี้เพิ่มเติม แต่เขาบอกว่ามีโอกาสในการบอกเล่าเรื่องราวภายในจักรวาลนี้มากกว่านี้' เคนเนดี้อธิบาย 'และการสร้างหนังที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของลุค สกายวอล์คเกอร์น่ะค่ะ' นั่นเองคือจุดกำเนิดไอเดียของการสร้างภาพยนตร์ที่จะเติมเต็มตำนานภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สมบูรณ์ แต่ก็เปิดโอกาสให้เคนเนดี้และทีมงานที่ลูคัสฟิล์มได้สำรวจจักรวาลใบนี้และทดลองสไตล์และวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไป 'Rogue One' บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่ไม่น่าจะเป็นวีรบุรุษ ผู้ที่รวมตัวกันในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งเพื่อปฏิบัติภารกิจในการขโมยแบบแปลนในการสร้างเดธ สตาร์ อาวุธทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝ่ายจักรวรรดิ เหตุการณ์สำคัญนี้ในไทม์ไลน์ของ Star Wars เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนธรรมดา ผู้เลือกที่จะทำในสิ่งที่พิเศษสุด และในการทำเช่นนั้น พวกเขาก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวพวกเขาเอง 'Rogue One: A Star Wars Story' กำกับโดยแกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์ ('Godzilla,' 'Monsters') และอำนวยการสร้างโดยแคธลีน เคนเนดี้, อัลลิสัน เชียร์เมอร์ ('The Hunger Games: Catching Fire,' 'Cinderella') และไซมอน เอ็มมานูเอล ('The Dark Knight Rises,' 'Harry Potter and the Deathly Hallows Parts 1&2') ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์จากไอแอลเอ็ม ผู้คร่ำหวอดในวงการ จอห์น นอลล์ ('Pirates of the Caribbean') ผู้มีความหลังยาวนานกับแฟรนไชส์ Star Wars รับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างร่วมกับเจสัน แม็คแกทลิน (Star Wars: The Force Awakens, 'The War of the Worlds') นักแสดงหญิงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดและบาฟตา อวอร์ด เฟลิซิตี้ โจนส์ ('The Theory of Everything,' 'Like Crazy') นำทีมนักแสดงประกบดิเอโก ลูน่า ('Milk,' 'Elysium') ผู้ที่ร่วมแสดงกับพวกเขาได้แก่เบน เมนเดลสัน ('Bloodline,' 'Animal Kingdom'), แมดส์ มิคเคลเซ่น ('Casino Royale,' ซีรีส์ 'Hannibal'), อลัน ทูดิกค์ ('Frozen,' 'I Robot'), ริซ อาห์เมด ('Nightcrawler,' 'Jason Bourne') และนักแสดงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ฟอเรส วิธเทเกอร์ ('The Last King of Scotland,' 'The Butler') นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้ต้อนรับสองดาราใหญ่จากจีน ดอนนี่ เยน ('Ip Man,' 'Blade II') และเจียง เหวิน ('Let the Bullets Fly,' 'The Sun Also Rises') อีกด้วย ในการสร้างลุคร่วมสมัยที่โดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ เอ็ดเวิร์ดส์ได้เลือกผู้กำกับภาพผู้ได้รับการยกย่อง เกร็ก เฟรเซอร์ ผู้ร่วมมือกับซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด นีล คอร์บูลด์ ('Black Hawk Down,' 'Saving Private Ryan') ดั๊ก เชียง ผู้คร่ำหวดในโลกของ Star Wars (Star Wars Episodes I และ II, 'Forrest Gump') และนีล ลามอนท์ (ผู้ควบคุมผู้กำกับศิลป์ใน The Force Awakens และแฟรนไชส์ 'Harry Potter') ร่วมมือกันในฐานะผู้ออกแบบงานสร้าง โดยที่นีล สแกนแลน ('Prometheus') กลับมารับหน้าที่ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายเอฟเฟ็กต์สิ่งมีชีวิตอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งคว้ารางวัลบาฟตา มาได้จากผลงานของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Star Wars: The Force Awakens ทีมงานสำคัญคนอื่นๆ รวมถึงผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เดฟ ครอสแมน (ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายเครื่องแต่งกายใน The Force Awakens และแฟรนไชส์ 'Harry Potter') และกลิน ดิลลอน (The Force Awakens และ นักวาดภาพคอนเซ็ปต์เครื่องแต่งกายใน 'Kingsman: The Secret Service') รวมถึงผู้ประสานงานฝ่ายสตันท์ ร็อบ อินช์ (The Force Awakens, 'World War Z')